มอนสเตอร์โบราณ มอนฮันเวิลด์ (Elder Dragon) เป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง ที่ปรากฏตัวในเจเนอเรชันแรกของเกม MH โดยมันจะแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น ๆ ตรงที่อยู่ภายนอกระบบนิเวศ ตามมาตรฐานของ มอนขนาดใหญ่ มอนฮันเวิลด์ (Large Monsters) ภายในเกม MHW โดยสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ค่อนข้างหาตัวได้ยาก และมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว สำหรับรายละเอียด ของเหล่ามังกรผู้เฒ่า จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้างนั้น ตามข้อมูลต่อจากนี้
รายละเอียดของ มอนสเตอร์เหล่านี้ หลายตัวสามารถจดจำได้จากรูปลักษณ์ภายนอก ที่พวกมันจะแตกต่าง และไม่เหมือนกับมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ ภายในโลกของเกม MHW เลย แต่สิ่งที่มันเหมือนกันเกือบแทบทั้งหมด ก็คือเรื่องของพลัง ที่บอกเลยว่าแต่ละตัวนั้น มีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนแปลง หรือทำลายระบบนิเวศและภูมิประเทศทั้งหมดได้ ซึ่งเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามอย่างมาก สำหรับผู้ล่าในช่วงท้ายเกม ที่ผู้ล่าจะได้ออกล่าพวกมันตามเนื้อเรื่อง หรือเควสอย่างแน่นอน [1]
ประเภทของเหล่ามังกรผู้เฒ่านั้น จะเหมือนกันทั้งหมด โดยเหล่าผู้ล่ามักจะเรียกมังกรเหล่านี้ว่า ElderDragon ซึ่งในเกมภาค World นี้ มังกรผู้เฒ่าที่จะออกมาให้ผู้เล่นได้เจอ และได้ล่านั้นก็จะมี โซราห์ มักดารอส (Zorah Magdaros), เบฮีโมธ (Behemoth), คิริน (Kirin), กุลเว ทาโรธ (Kulve Taroth), กุศลา ดาวรา (Kushala Daora), ลูนาสตรา (Lunastra), เนอร์จิกันเต้ (Nergigante), เทโอสตรา (Teostra), วาล ฮาซัค (Vaal Hazak) และ เซโนจีวา (Xeno’jiiva)
แหล่งที่อยู่อาศัย ของเหล่ามังกรผู้เฒ่านั้น ส่วนมากจะอาศัยกันอยู่ที่ Elder’s Recess ซึ่งเป็นโซนที่ Unlock หลังจากที่ได้เปลี่ยนเส้นทางของ Zorah Magdaros จากเนื้อเรื่องนั่นเอง แต่ก็จะมีมังกรผู้เฒ่าหลากหลายตัว ที่จะมีแหล่งอาศัยเป็นของตนเอง หรืออยู่มั่งไปหมด ยกตัวอย่างเช่น Kirin ที่จะอาศัยอยู่ใน Coral Highlands และ Kushala Daora ที่อาจจะเจอได้ใน Ancient Forest นั่นเอง แต่อย่างที่บอกไป โดยส่วนมาก ผู้ล่าก็จะเจอได้ใน Elder’s Recess
การเก็บร่องรอย หรือการ Research ของเหล่ามอนสเตอร์ระดับโบราณนั้น จะขึ้นตรงกับ Ecological Research หรือ NPC ภายในเกม MHW เช่นเดียวกับ มอนสเตอร์ขนาดใหญ่ ที่จะมีการศึกษาเกี่ยวกับร่องรอยต่าง ๆ ของมอนสเตอร์ ที่นักล่าหามาได้ ซึ่งมันจะช่วยให้การล่า และการหาตัวเหล่า ElderDragon นั้น ง่ายขึ้นเช่นกัน แต่ผู้ล่าจะต้องสังเกตร่องรอยให้ดี เพราะร่องรอยของเหล่ามังกรโบราณ จะไม่ใช่สีเขียว แต่ร่องรอยจะเป็นสีฟ้า หรือสีน้ำเงินเข็มแทน [2]
จุดอ่อนโดยทั่วไปของ เหล่ามังกรผู้เฒ่า คือการหักเขาของพวกมัน เพื่อให้อ่อนแอลง โดยเขาของพวกมัน จะเป็นแหล่งสะสมพลังงานเอาไว้ ซึ่งการหักเขานั้น จะทำให้ปิดผนึกพลังของพวกมันเอาไว้ได้ชั่วคราว ทำให้พวกมันสูญเสียความสามารถบางอย่าง แต่มันก็จะฟื้นฟูได้ใหม่ หากระยะเวลาผ่านไป ซึ่งในตอนที่เขามันหัก ผู้ล่าจะต้องรีบสร้างความเสียหายให้ได้มากที่สุด
ส่วนเรื่องของความสามารถบางอย่าง ที่เหล่ามังกรผู้เฒ่าจะเสียไป เมื่อโดนหักเขา ยกตัวอย่างเช่น ทำให้พลังไฟฟ้าของ Kirin อ่อนลง Chameleos จะสูญเสียความสามารถในการล่องหน ลมของ Kushala Daora เบาลงกว่าเดิม หรือ Teostra ไม่สามารถสร้างเปลวไฟได้ และอีกมากมาย ตามความสามารถของ ElderDragon ตัวนั้น ๆ [3]
มังกรผู้เฒ่าที่มาจากโลกอื่น ภายในเกม MHW ก็จะมี Behemoth ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในเกม RPG Final Fantasy II ของ Square Enix แต่การออกแบบนั้น จะอิงจากเวอร์ชันที่เห็นใน Final Fantasy XIV โดยถูกนำเข้าสู่เกม Monster Hunter World ในฐานะกิจกรรมระหว่าง Square Enix ผู้สร้างเกม Fantasy และ Capcom ผู้สร้างซีรีส์เกม Monster Hunter
ซึ่งมันถูกเพิ่มเป็น DLC ฟรี สำหรับช่วงฤดูร้อนเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2018 โดยรูปร่างของเจ้า Behemoth มีขนาดที่สูงใหญ่ จึงเป็นความท้าทายใหม่สำหรับผู้ล่า ที่จะได้ลองล่าบอสในเกม Final Fantasy สุดน่าเกรงขามตัวนี้ โดยผู้ล่าจะต้องใช้ทั้งทักษะ กลยุทธ์มากมาย และการประสานงานกันเป็นทีม จึงจะเอาชนะมันได้ สำหรับขนาดตัวของมัน จะมีเพียงขนาดเดียว นั่นก็คือ 3423.65 ตามอัตราวัดขนาดความใหญ่ของมอนสเตอร์ภายในเกม
มอนสเตอร์โบราณ มอนฮันเวิลด์ (Elder Dragon) โดยรวมก็คือบอส ที่ผู้ล่าจะต้องจัดการกับพวกมัน เพื่อผ่านไปตามเนื้อเรื่องหลัก หรือเควสต่าง ๆ เหมือนกับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ภายในเกม MHW เลย โดยมอนสเตอร์โบราณพวกนี้ ก็อย่างที่บอกไป ลักษณะภายนอก ทั้งแปลก และแตกต่าง ความสามารถก็สุดจะแข็งแกร่ง ซึ่งแนะนำให้เตรียมความพร้อม ก่อนจะออกล่าทุกครั้ง เพราะมันไม่ได้ง่าย เหมือนกับการล่า มอนสเตอร์ตัวใหญ่ อย่างที่ผ่านมาแน่นอน
